ราชวงศ์โรมานอฟ (Romanov Dynasty) เป็นราชวงศ์ที่สองและราชวงศ์สุดท้ายของรัสเซีย (1631-1917) กษัตริย์โรมานอฟพระองค์แรก คือ มิคาอิล ได้รับแต่งตั้งใน ค.ศ. 1613 ภายหลังสมัยยุ่งยาก (Time of Troubles) ราชวงศ์นี้ปกครองแบบสมบูรณาญาสิทธิราชย์โดยตลอด โดยไม่ยินยอมให้มีการร่างรัฐธรรมนูญ ที่จะเป็นการลดพระราชอำนาจของกษัตริย์
แม้ว่าพระเจ้านิโคลัสที่สองจะทรงตั้งสภาดูมาใน ค.ศ.1905 ก็มิได้มีสิทธิในการออกกฎหมายอย่างเต็มที่ จนเกิดการปฏิวัติใหญ่ในรัสเซีย และพระเจ้านิโคลัสต้องทรงสละราชสมบัติในเดือนกุมภาพันธ์ ค.ศ.1917 และถูกปลงพระชนม์โดยกำลังของฝ่ายบอลเชวิกในเดือนกรกฎาคม 1918 ซึ่งสาเหตุของการปลงพระชนม์เนื่องด้วย พระเจ้านิโคลัสเข้าร่วมสงครามและ ทุ่มงบประมาณไปกำสงครามมาก ทำให้ประเทศมีเศรษฐกิจที่ตกต่ำลง ส่งผลให้ประชาชนก่อการปฎิวัติ และทางราชวงศ์ได้พยายามหลบหนีแต่ไม่สำเร็จ ได้ถูกนำมากักตัวและ ถูกวางแผนลอบสังหารในที่สุด ทั้งนี้มี ตำนานว่า มีราชวงศ์องค์หนึ่งได้หนีรอดมา นั้นคือ อะนาสตาเซีย
มีหญิงสาวหลายคนอ้างตัวเป็นเจ้าหญิงอนาสตาเซียที่รอดชีวิตอย่างปาฏิหาริย์จากวันที่กลุ่มกบฎบอลเชวิกประหารชีวิตพระเจ้าซาร์ ครอบครัวและคนรับใช้พร้อมกันหมดเมื่อปีค.ศ.1918 ซึ่งเป็นเรื่องที่ฮือฮามาก แต่ก็พิสูจน์ไม่ได้ว่าเป็นเรื่องจริง สาวที่อ้างตัวแล้วดังมากๆเป็นสาวชาวโปแลนด์ชื่อ ฟรานซิสก้า ชแคนซโควสก้า หรือที่รู้จักในชื่ออเมริกันว่า แอนนา แอนเดอสัน ซึ่งเสียชีวิตแล้วที่สหรัฐอเมริกา ค.ศ.1994
พระเจ้าซาร์นิโคลัสที่สอง เมื่อครั้งเป็นซาเรวิชหรือมกุฎราชกุมารรัสเซียเคยเสด็จประพาสตะวันออกไกล แล้วมาถึงสยาม เป็นพระราชอาคันตุกะของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวค่ะ รับเสด็จกันที่บางปะอิน เป็นงานใหญ่มาก จนเรื่องงานเลี้ยงอะไรที่ใหญ่ๆในพระบรมมหาราชวัง ถูกชาววังสมัยแม่พลอย ยกเป็นสำนวนว่า " ราวกับรับเสด็จซาเรวิช "
ซาร์องค์นี้ เมื่อพระเจ้าอยู่หัวของเราเสด็จประพาสยุโรป ก็ฉายพระรูปคู่กัน เพราะตอนนั้นพระพันปีหรือสมเด็จรีเยนต์ส่งข่าวไปถวายว่ามีมหาอำนาจประเทศหนึ่ง ทำท่าไม่ชอบมาพากล มาตั้งยุ้งฉางเสบียงอยู่ชายแดนไทย ทำท่าเหมือนจะก่อเรื่อง เมื่อซาร์ทรงทราบก็โปรดให้ฉายพระรูปคู่กัน ลงนสพ.ให้รู้กันทั่วยุโรปว่า รัสเซียเป็นฝ่ายสยาม เหตุไม่ชอบมาพากลที่ชายแดนก็สลายไป
นอกจากนี้ทรงขอว่า ถ้าจะส่งเจ้าชายสยามไปเรียนวิชาที่รัสเซีย ก็จะทรงรับเลี้ยงอย่างดี ถือเป็นพระราชโอรสบุญธรรม พระเจ้าลูกยาเธอเจ้าฟ้าจักรพงษ์ภูวนารถ กรมหลวงพิษณุโลกประชานาถ จึงได้ไปศึกษาวิชาทหารต่อที่รัสเซีย จนจบกลับมา สร้างตำนานรักกับหญิงสาวชาวรัสเซียจนกลายเป็นหนังสือเรื่อง แคทยากับเจ้าฟ้าสยาม
เรื่องราวของพระเจ้าซาร์ พระราชินีและพระราชโอรสธิดาจบลงอย่างน่าเศร้าสลดด้วยฝีมือกบฎบอลเชิวิค เลนินเป็นผู้นำ โค่นระบกษัตริย์และราชวงศ์โรมานอฟลงได้
ส่วนเรื่องหญิงที่อ้างตัวว่าเป็นเจ้าฟ้าหญิงผู้รอดจากการสังหารหมู่มาได้ ในตอนหลังเธอย้ายไปอยู่อเมริกา ใช้ชื่อว่าแอนนา แอนเดอร์สัน ตายไปเมื่อ 1994 มีสามีและลูกหลานซึ่งเชื่อแน่นแฟ้นว่าเธอคืออนาสตาเซีย แต่มีการพิสูจน์ผลดีเอ็นเอภายหลังเธอตายไปแล้ว ว่าไม่ใช่ผลกลับกลายเป็นว่า เธอน่าจะเป็นคนงานหญิงชื่อฟรานซิสก้า ชาวโปล ซึ่งถูกแจ้งความว่าหายตัวไปในวันที่อนาสตาเซียปรากฏตัวขึ้นมาแต่ทำไม ฟรานซิสก้าถึงเหมือนอนาสตาเชียจนพระญาติและผู้รู้จักบางคนเชื่อว่าเป็นตัวจริง มีตำหนิบนร่างกายตรงกัน และยังรู้เรื่องส่วนตัวเล็กๆน้อยๆใกล้ชิดได้มาก
สำหรับเจ้าหญิงอะนาสตาเซียนั้นอยู่ในราชวงศ์โรมานอฟของรัสเซีย ซึ่งเป็นราชวงศ์ที่อำนาจในรัสเซียตั้งแต่ปี 1613 เป็นพระธิดาองค์ที่ 4 ของพระเจ้าซาร์ นิโคลัสที่ 2 กับพระราชินีอเล็กซานดรา ซึ่งทั้งสองมีพระโอรส-ธิดารวม 5 พระองค์ ได้แก่ 1.แกรนด์ ดัชเชส โอลก้า นิโคเลียฟน่า เรียกสั้นๆว่า เจ้าหญิงโอลก้า 2.เจ้าหญิงทัตเทียน่า 3.เจ้าหญิงมาเรีย 4.เจ้าหญิงอะนาสตาเซีย และ 5.เจ้าชายอเล็กซีส
รูปที่ 1 พระเจ้ามิคาอิล เฟโอโดโรวิช (1596 - 1645) ปฐมกษัติร์ของราชวงศ์โรมานอฟ
รูปที่ 2 พระเจ้านิโคลัสที่ 2 และพระราชินีอเล็กซานดรา
รูปที่ 3 เจ้าหญิงอะนาสตาเซีย พระองค์จริง ค.ศ. 1916
รูปที่ 4 แอนนา แอนเดอสัน ที่อ้างตัวเป็นเจ้าหญิงอะนาสตาเซีย เมื่อ ค.ศ. 1920
รูปที่ 5 แอนนา แอนเดอสัน ที่อ้างตัวเป็นเจ้าหญิงอะนาสตาเซีย เมื่อ ค.ศ. 1930
รูปที่ 6 แอนนา แอนเดอสัน ที่อ้างตัวเป็นเจ้าหญิงอะนาสตาเซีย เมื่อ ค.ศ. 1974
ภาพที่ 6 แสดงลำดับพระเจ้าซาร์นิโคลัส เป็นพระโอรสของพระเจ้าอเล็กซานเดอร์ที่ 3 กับพระราชินีมาเรีย โฟโดรอฟน่าจากเดนมาร์ค |