มหาวิหารนิกายออร์โธดอกที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 3 ของโลก เซนต์ไอแซคเป็นชื่อของนักบุญท่านหนึ่งที่มีวันเกิดตรงกับวันประสูติของพระเจ้าปีเตอร์มหาราช มหาวิหารแห่งนี้ยุคแรกสร้างด้วยไม้ ยุคต่อมาสร้างด้วยหินแต่จมลงใต้ดิน ในยุคถัดมามีการประกวดออกแบซึ่ง Auguste de Montferrand สถาปนิกชาวฝรั่งเศสชนะการประกวดออกแบบสถาปัตยกรรมหลังนี้
เริ่มก่อสร้างในปี 1818 ใช้เวลาในการก่อสร้างยาวนานถึง 40 ปี เนื่องจากผู้ก่อสร้างเชื่อคำทำนายที่ว่า หากมหาวิหารแห่งนี้เสร็จสมบูรณ์ ตนจะเสียชีวิตจึงยืดเวลาก่อสร้างให้นานขึ้นเฉพาะการทำผนังและวางรากฐานใช้เวลา 5 ปี ใช้เสาเข็ม 5 หมื่นต้นเป็นฐาน ส่วนที่สูงที่สุดของโบสถ์สูง 101.5 เมตร เป็นยอดโดมที่มีความสูง การสร้างก็ตัดหินจากฟินแลนด์เป็นแท่งขนย้ายมาทางน้ำ สร้างนั่งร้านเอาเชือกมัดแท่งหินดึงเสาให้ตั้งขึ้น เสาหนึ่งต้นใช้เวลาดึงขึ้น 45 นาที โดยใช้เวลาแรงงานคนทั้งสิ้น นับเสาต้นใหญ่ได้ 48 ต้น รวมเสาต้นเล็กอีก 112 ต้น ความสวยงามของมหาวิหารแห่งนี้อยู่ที่ยอดโดมที่ทำเป็นรูปโค้งครึ่งวงกลมซ้อนกัน ใช้โครงเหล็กหรือโลหะพิเศษ กรรมวิธีการฉาบทองบนยอดโดมใช้ปรอทผสมทองคำหลอมให้เหลวเทราดลงไป ไอระเหยของสารพิษจากปรอทคร่าชีวิตกรรมกรไปเป็นจำนวนมากตลอดระยะเวลาการก่อสร้าง แต่ก็นับเป็นวิธีที่ที่ทำให้โลหะที่ฉาบอยู่คงทนมาก ประตูทางเข้า วิหารบานใหญ่ทำจากไม้โอ๊ก กับสัมฤทธิ์หนัก 6 ตัน มีรูปหล่อของเหล่านักบุญประดับประดาอยู่ที่ผนังห้อดินกว่า 1 ล้านใบ เพื่อให้เกิดเสียงก้องกังวาน ภายในมีรูปสลักหินอ่อนของสถาปนิก สำหรับการตกแต่งภายในใช้หินอ่อนหลากสีและการวาดภาพด้วยสีน้ำแต่ไม่คงทน จึงเปลี่ยนมาเป็นการประดับประดาด้วยโมเสก มีภาพพระแม่มาดอนน่าฝีมือของช่างรัสเซีย ภาพพระเยซูบนกระจกสแตนกลาส (จิตรกรรมกระจกสี) เสามาลาไคต์( Malachiten ) สีเขียวสดโดดเด่น นอกจากนี้ยังมีหินสีมูลค่าสูงและหายากจากดินแดนต่างๆ อยู่ภายในโถงกว้างของมหาวิหาร ส่วนด้านหน้าของมหาวิหารมีอนุเสาวรีย์พระเจ้าซาร์นิโคลัสที่ 1 ทรงม้า ตั้งอยู่โดดเด่นเคียงคู่มหาวิหาร |