| เนิ้อหานี้อยู่ในหมวด : เซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก
โบสถ์แห่งหยดเลือด | The Cathedral of the Resurrection,
(The Saviour on the Blood)
โบสถ์มีสีสันสวยงามริมคลอง Griboyedov อยู่ใกล้สวน Mikhailovsky ยอดโบสถ์สูง 81 เมตร (สื่อความหมาย ว่าทรงสิ้นพระชนม์ในปี 1881) จุคนได้ถึง 1,600 คน ถูกสร้างขึ้นตามคำบัญชาของ พระเจ้าซาร์อเล็กซานเดอร์ที่ 3 เริ่มก่อสร้างในปี 1883 - 1907 มีการออกแบบแข่งขันกันจากสถาปนิกที่มีชื่อเสียงมากมาย ก่อนจะทรงคัดเลือกแบบของสถาปนิก อัลเฟรด ปาร์แลนด์ (Альфреда Парланда) และท่านเจ้าอาวาสอีก 2 องค์ ผู้ร่วมคิดแบบ เป็นสถาปัตยกรรมแบบรัสเซีย รูปแบบได้รับอิทธิพลจาก มหาวิหารเซ็นบาซิล ที่จตุรัสแดง กรุงมอสโก และโบสถ์ที่ยาโลสลาฟ การก่อสร้างกินเวลา 24 ปี และเปิดอย่างเป็นทางการเมื่อ 6 สิงหาคม 1907
การตกแต่งอาคารใช้วัสดุตกแต่งที่หลากหลาย เข่น อิฐ, หินแกรนิต, หินอ่อน, ทองแดงปิดทองและโมเสค โมเสคต่างๆ ถูกออกแบบและจัดทำจากศิลปินถึง 30 คน เช่น VM Vasnetsov, M. Nesterov, A. Ryabushkin P., V. Belyaev, N. Kharlamov เป็นต้น และถือว่าเป็นโบสถ์ที่มีงานโมเสคที่ใหญ่ที่สุดในโลกก็ว่าได้
ย้อนหลังไปเมื่อวันที่ 1 มีนาคม 1881 กลุ่มหัวรุนแรง ได้ปาระเบิดเข้าใส่ขบวนรถม้าพระที่นั่ง จนพระเจ้าซาร์อเล็กซานเดอร์ที่ 2 (พระราชบิดา) จนได้รับบาดเจ็บสาหัส และทรงสิ้นพระชนม์ในเวลาต่อมา ที่พระราชวังฤดูหนาว
เล่ากันว่าพระเจ้าซาร์อเล็กซานเดอร์ที่ 2 ทรงไม่เชื่อคำทำนายที่ว่าไม่ให้จัดพิธีอภิเษกสมรสภายใน 3 ปี ภายหลังจากที่พระมเหสีของพระองค์สิ้นพระชนม์ ซึ่งภายหลังพิธีอภิเษกสมรสไม่นานพระองก็ทรงถูกลอบปรงพะชนม์ ใน 1 มีนาคม 1881 ณ จุดที่สร้างโบสถ์แห่งเลือดนี้
สำหรับเหตุจูงใจที่คาดกันว่าเป็นต้นเรื่องที่นำไปสู่การลอบปรงพระชนม์ ในครั้งนี้ก็เนื่องมาจากหลายสาเหตุ เป็นต้นว่าพระเจ้าอเล็กซานเดอร์ที่ 2 ทรงพาประเทศเข้าร่วมในสงคราม ไครเมีย และพ่ายแพ้กลับมา และพระองค์ยังทรงคิดจะปลดปล่อยชนชั้นทาส ชาวนา และกรรมกร ซึ่งก่อให้เกิดความไม่พอใจหมู่เจ้าขุนมูลนาย อีกทั้งยังมีกลุ่มชนที่อ้างตนว่ารักชาติต่อต้านการปฏิรูปในหลายๆ ด้านของพระองค์อีก ทำให้พระองค์ถูกลอบปลงพระชนม์จากบุคคลหลายกลุ่มอยู่หลายครั้ง แต่ก็รอดมาได้สุดท้ายก็ถูกระเบิดของกลุ่มผู้ปฏิวัติที่ขว้างใส่รถม้าที่พระองค์กลับมาจากตรวจเยี่ยมกองทหาร ทรงได้รับบาดเจ็บสาหัสจนกระทั่งสวรรคตในที่สุด |
|