จอมเผด็จการคนหนึ่งของรัสเซียที่ทรงอำนาจมากที่สุดในช่วงปี ค.ศ.1929-1953 เขาเป็นสมุนมือขวาที่ปฏิบัติการเคียงบ่าเคียงไหล่เลนินมาตลอด แต่เขานั่นแหละคือผู้ที่บงการในการลอบวางยาพิษเพื่อสังหารเลนินในปี ค.ศ.1924 ด้วยความมักใหญ่ใฝ่สูงนั่นเอง

โจเซฟ สตาลิน เกิดเมื่อปี ค.ศ.1879 ในเมืองคอร์ ซึ่งเป็นเมืองเล็กๆ ในรัฐจอร์เจีย แคว้นคอร์เคซัส อันเป็นอาณานิคมของรัสเซีย บิดาของเขาเป็นช่างเย็บรองเท้า ส่วนมารดารับจ้างซักรีดเสื้อผ้าอยู่ในบ้านเศรษฐีม่ายคนหนึ่ง พ่อของเขาเป็นคนอ่อนแอ ผิดกับแม่ซึ่งเข้มแข็ง และความอ่อนแอของพ่อนี่เองที่ทำให้เขาสงสารพ่อและเกลียดแม่ แต่เมื่อแม่ต้องการให้เขาเป็นนักบวช เขาก็ยอมเข้าเรียนในโรงเรียนนักบวชแต่ก็เรียนไม่สำเร็จ

สตาลินไม่ได้รับการศึกษามากนัก เพราะฐานะยากจนและหัวไม่ดี เขาจึงสมัครเป็นสมาชิกพรรคบอลเชวิคที่เลนินจัดตั้งขึ้นตั้งแต่อายุยังน้อย สตาลินได้รับตำแหน่งในพรรคสูงขึ้นเป็นลำดับ เพราะเขาเป็นยอดของนักปฏิวัติ ไม่ว่าเลนินจะสั่งให้เขาทำอะไร เขาจะทำได้สำเร็จเรียบร้อยตามคำสั่ง เขาเป็นคนที่รู้ในเลนินทุกอย่าง เลนินมักจะมอบหมายให้สตาลินทำโน่นทำนี่อยู่เสมอ แต่เลนินก็ไม่ได้ไว้วางใจเพราะรู้ว่าสตาลินเป็นคนมักใหญ่ใฝ่สูง หยาบคาย เหี้ยมโหด และไม่มีความรู้

ก่อนที่เลนินจะถึงแก่กรรม สตาลินดำรงตำแหน่งเป็นเลขาธิการพรรค และทำตัวเป็นศิษย์ที่ภักดีต่อเลนินตลอดเวลา พอเลนินเสียชีวิตลงในปี ค.ศ.1924 สตาลินก็เข้าครอบครองอำนาจแทน เขาได้จัดตั้งหน่วยสังหาร หรือตำรวจลับ ซึ่งหน่วยนี้มีหน้าที่สังหารคู่แข่งทางการเมือง และผู้ที่คิดจะต่อต้านเข้าโดยเฉพาะ และบางคนก็จะถูกส่งไปทำงานหนักในค่ายกักกันกูแลคในไซบีเรีย

สตาลินได้ขยายอิทธิพลของคอมมิวนิสต์ โดยยึดถือลัทธิมาร์กซ์-เลนินเป็นแนวทาง โดยการจัดตั้งองค์การคอมมิวนิสต์สากลขึ้น ในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 สตาลินได้สั่งให้กองทัพรัสเซียตอบโต้ทัพของเยอรมัน โดยเดินทัพผ่านโปแลนด์ โรมาเนีย บัลแกเรีย เช็กโกสโลวาเกีย (ปัจจุบันคือสาธารณรัฐเช็ก) ยูโกสลาเวีย ฮังการี ออสเตรีย แล้วบีบบังคับให้ประเทศเหล่านี้กลายเป็นคอมมิวนิสต์ทั้งหมด เมื่อประชาชนประเทศใดคัดค้านหรือต่อต้าน สตาลินก็จะส่งกองทัพเข้าปราบปรามทุกครั้ง

ในยุคของสตาลินนั้นกล่าวกันว่าเป็นยุคแห่งความหวาดกลัวโดยแท้ ผู้บริสุทธิ์หรืออาชญากรเล็กๆ น้อยๆ หรือผู้ที่มีแนวความคิดต่อต้านเขา สตาลินจะส่งตัวไปทำงานหนักในไซบีเรีย ซึ่งเป็นที่รู้กันดีว่าเป็นสถานที่ที่หนาวจัด แห้งแล้งกันดารที่สุด เหมือนถูกปล่อยเกาะ ในระหว่างปี ค.ศ.1934-1950 ผู้คนกว่า 12 ล้านคนต้องตายในค่ายกักกันกูแลค

แม้ว่าสตาลินจะเป็นที่รู้จักกันว่าเป็นบุคคลที่เหี้ยมโหดเพียงใดก็ตาม แต่จากปากคำของบุคคลใกล้ชิดบางคนกล่าวว่า สตาลินมีจิตใจอ่อนไหวมาก โดยเฉพาะเรื่องที่เกี่ยวกับบิดาของเขา เขาชอบดูภาพยนตร์ของชาร์ลี แชปลินมาก และบอกว่าชาร์ลีทำให้เขาคิดถึงบิดา เขาดูภาพยนตร์เรื่อง "City Lights" ถึง 3 ครั้ง ทุกครั้งเขาจะร้องไห้และบอกว่าภาพยนตร์เรื่องนี้เหมือนกับชีวิตของเขา

สตาลินถึงแก่กรรมเมื่อปี ค.ศ.1953 ขณะอายุได้ 74 ปี