สงครามระหว่างรัสเซียกับญี่ปุ่น ซึ่งเป็นสงครามที่รัสเซียต้องพ่ายแพ้ต่อญี่ปุ่นโดยสิ้นเชิงทั้งทางบกและทางทะเลเมื่อปี พ.ศ. 2447 - 2448 (ค.ศ. 1904-1905) เกิดจากความทะเยอทะยานแข่งขันเกี่ยวกับลัทธิจักรวรรดินิยมของรัสเซียและญี่ปุ่นในแมนจูเรียและเกาหลี
ประวัติศาสตร์รัสเซียบอกว่า พระเจ้าซาร์หลายพระองค์ไม่สนใจเรื่องสมุททานุภาพ เท่าใด จนกระทั่งรัชสมัยพระเจ้าปีเตอร์ ประมาณ ค.ศ.๑๗๐๐ ตกลงใจเสริมสร้างกองทัพเรือ พระองค์ทรงว่าจ้างวิศวกรชาวอังกฤษและดัตช์มาสร้างเรือรุ่นแรก เมื่อรัสเซีย ทำสงครามกับ สวีเดน กองเรือของพระเจ้าปีเตอร์รบกับกองเรือสวีเดนหลายครั้งในทะเลบอลติก ซึ่งสงคราม ครั้งนั้นทำให้กองเรือสวีเดนต้องถอยร่นกลับเข้าไปในสวีเดน พระเจ้าปีเตอร์ เป็นหนึ่งในบรรดา พระเจ้าซาร์น้อยพระองค์ที่เข้าใจในสมุททานุภาพและเข้าใจดีว่า - กษัตริย์พระองค์ใด มีแต่ กำลัง ทาง บกเสมือนมีมือข้างเดียว พระองค์ผู้มีกองทัพเรือ พระองค์นั้นมีสองมือ ซึ่งพระเจ้า ปีเตอร์ เป็นมหาราชองค์หนึ่งของประวัติศาสตร์รัสเซีย
ภายหลังรัชสมัยพระเจ้าปีเตอร์ ไม่มีพระเจ้าซาร์องค์ใดทำนุบำรุงกองทัพเรือ เป็นชิ้น เป็นอัน ใน พ.ศ.๒๓๙๖ กองเรือรัสเซียรบแพ้กองเรือฝรั่งเศสและอังกฤษ ยังผลให้ถูกห้ามมี กองเรือในทะเลดำ ความตกต่ำของทหารเรือรัสเซียต่ำสุดในสงครามกับญี่ปุ่นระหว่าง พ.ศ. ๒๔๔๗ - ๔๘ กองเรือภาคตะวันออก รัสเซียถูกปิดอ่าวในปอร์ตอาเธอร์ ซึ่งถูกยิงโดยปืนใหญ่ ทหารบก และปืนเรือญี่ปุ่นเป็นประจำ รัสเซียได้ส่งกองเรือบอลติกในเดือนตุลาคม ๒๔๙๗ เดิน ทาง ๗,๐๐๐ ไมล์ เพื่อช่วยกองเรือภาคตะวันออก แต่เมื่อกองเรือบอลติกที่เพียบแปล้ ด้วยถ่าน หินมาถึงทะเลจีน กองเรือภาคตะวันออกก็ยอมแพ้เสียก่อน โดยบางลำหนีรอดไปยังวลาดิวอส ต็อกได้ การยุทธ์ระหว่างกองเรือบอลติกกับกองเรือญี่ปุ่นเกิดขึ้นในช่องชูชิมา ระหว่างญี่ปุ่นและ เกาหลี เรือใหญ่น้อย ๓๘ ลำ ของรัสเซียจมหรือถูกยึดไปถึง ๒๙ ลำ หมดภาวะมหาอำนาจทาง ทะเลไปเลย ถังแตกทางอำนาจ
ในสงครามโลกครั้งแรก กองเรือรัสเซียเหลือแต่เรือลำเล็กลำน้อย ไม่ได้ทำการรบ สลักสำคัญอะไร ช่วงปลายสงคราม เกิดปฏิวัติของบอลเชวิก เรือลาดตระเวน Aurora และเรือ ทุ่นระเบิด Amur กับ Khoper เข้าไปในแม่น้ำเนวา ระดมยิงพระราชวังฤดูหนาวของพระเจ้า ซาร์ เป็นสัญญานของการก่อปฏิวัติที่เป็นกำเนิดของการใช้คอมมิวนิสต์ในรัสเซีย บทบาทของ กองเรือกลายเป็นบทบาททางการเมือง ก่อนสงครามโลกครั้งที่สอง คอมมิวนิสต์รัสเซีย เริ่ม สร้างกองเรือที่มีเรือดำน้ำจำนวนมากไม่เป็นรองใคร ซึ่งไม่มีการรบมากนักในทะเลดำ เมื่อ ทหารเยอรมันรุกใกล้กรุงมอสโก ทหารเรือรัสเซียมากกว่า ๔๐๐,๐๐๐ คน ถูกถอนขึ้นจากเรือ ไปช่วยการรบทางบก ซึ่งเมื่อสงครามโลกจบลง กองเรือรัสเซียแทบหมดสภาพแต่ก็อยู่ในฐานะ ผู้ชนะสงครามโลก
สงครามนี้เกิดขึ้นสมัย พระเจ้านิโคลัสที่ 2 (Nicholas II) ได้รับการสถาปนาขึ้นเป็น พระเจ้าซาร์ นิโคลัสที่ 2 (Tsar Nicholas II) กษัตริย์พระองค์สุดท้ายของรัสเซีย ทรงเป็นพระโอรสของพระเจ้าซาร์ อเล็กซานเดอร์ ที่ 3 แห่ง ราชวงศ์โรมานอฟ (Romanov Dynasty) ขึ้นครองราชย์ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2437 พระองค์ทรงเป็นจักรพรรดิที่อ่อนแอ ไม่สามารถจัดการกับสถานการณ์ของประเทศที่กำลังปั่นป่วน หลังจากพ่ายแพ้ใน สงครามรัสเซีย-ญี่ปุ่น (Russo–Japanese War) ระหว่างปี 2447-2448 ในช่วง สงครามโลกครั้งที่ 1 (พ.ศ. 2457-2461) ได้ทรงนำรัสเซียเข้าร่วมสงครามแต่ต้องพบกับความพ่ายแพ้อีกครั้ง ส่งผลให้ประชาชนเสื่อมความนิยมในพระองค์และคณะรัฐบาลมาก นอกจากนี้ยังทรงปล่อยให้ รัสปูติน (Gregori Rasputin) พระนอกรีตผู้ลึกลับเข้ามามีอิทธิพลในราชสำนัก ช่วงนั้นเกิดภาวะเงินเฟ้อ เศรษฐกิจตกต่ำมาก ขาดแคลนอาหาร ประชาชนอดอยาก เกิดความเหลื่อมล้ำทางสังคมสูง ส่งผลให้ประชาชนไม่พอใจจึงลุกขึ้นมาเดินขวบต่อต้านและบังคับให้พระองค์สละราชสมบัติในวันที่ 15 มีนาคม 2460 เรียกเหตุการณ์ในครั้งนั้นว่า "การปฏิวัติเดือนกุมภาพันธ์" (February Revolution--เพราะนับตามปฏิทินแบบเก่า) จากนั้นถูกนำไปกักขังไว้และถูกปลงพระชนม์พร้อมพระราชวงศ์อีกหลายพระองค์ เมื่อวันที่ 17 กรกฎาคม 2461
สงครามรัสเซีย-ญี่ปุ่น ( ค.ศ.1904–05) มีผู้เสียชีวิต 130,000 คน
เรือรบหลวงออโรรา เป็นเรือรบสมัย Russo–Japanese War ปัจจุบันได้ซ่อมแซมและนำมาจัดเป็นพิพิธภัณฑ์ให้นักท่องเที่ยวได้เที่ยวชม ณ นครเซ็นต์ปีเตอร์สเบิร์ก |